ทำไม ฮอยลุนด์ ถึงยังไม่ประสบความสำเร็จกับแมนฯยูไนเต็ด

ราสมุส ฮอยลุนด์ กลายเป็นหนึ่งในดีลที่สร้างความฮือฮาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เมื่อพวกเขาทุ่มเงินมหาศาลกว่า 72 ล้านปอนด์ คว้ากองหน้าดาวรุ่งจากอตาลันต้ามาร่วมทีม ความคาดหวังสูงลิ่วทันทีว่า ฮอยลุนด์ จะกลายเป็นกองหน้าคนสำคัญและเป็นตัวแทนระยะยาวของทีม อย่างไรก็ตาม เวลาผ่านไปหนึ่งฤดูกาล เขากลับยังไม่สามารถตอบแทนค่าตัวและความคาดหวังได้อย่างเต็มที่
แรงกดดันจากค่าตัวมหาศาลและความคาดหวังสูงเกินไป
ทันทีที่เซ็นสัญญา ฮอยลุนด์ ถูกคาดหวังว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้าหมายเลข 9 ที่แมนฯ ยูไนเต็ดรอคอย หลังจากทีมขาดผู้เล่นตำแหน่งนี้มาหลายปี การที่เขามีค่าตัวสูงถึง 72 ล้านปอนด์ ทำให้แฟนบอลและสื่อต่างประเทศคาดหวังว่าเขาจะสามารถทำประตูได้ทันทีในพรีเมียร์ลีก
แต่ในความเป็นจริง ฮอยลุนด์ อายุเพียง 20 ปี และยังขาดประสบการณ์ในลีกระดับสูง การเปรียบเทียบเขากับกองหน้าชั้นนำอย่างเออร์ลิง ฮาแลนด์ หรือแฮร์รี เคน จึงไม่ยุติธรรมและสร้างความกดดันที่ไม่จำเป็น

ข้อจำกัดด้านประสบการณ์และการปรับตัวในพรีเมียร์ลีก
พรีเมียร์ลีกถือเป็นลีกที่ยากที่สุดในโลก กองหน้าที่เคยโดดเด่นในลีกอื่นหลายคนยังต้องใช้เวลาปรับตัว ฮอยลุนด์ มีประสบการณ์เพียงหนึ่งฤดูกาลในเซเรีย อา กับอตาลันต้า ซึ่งแตกต่างจากพรีเมียร์ลีกอย่างสิ้นเชิง ทั้งเรื่องความเร็ว จังหวะเกม และความแข็งแกร่งทางกายภาพ
เขาต้องเผชิญหน้ากับกองหลังที่ทั้งเร็ว แข็งแกร่ง และมีประสบการณ์สูง เช่น รูเบน ดิอาส, เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หรือวิลเลียม ซาลิบา ซึ่งทำให้เขาต้องใช้เวลาปรับตัวอย่างมาก
ปัญหาทางเทคนิคและทักษะเฉพาะตัว
หนึ่งในจุดอ่อนที่เห็นได้ชัดของฮอยลุนด์คือการจับบอลแรก (First Touch) ที่ไม่แม่นยำพอ และการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายยังขาดความเฉียบคม หลายครั้งเขาได้โอกาสที่ดีแต่กลับยิงพลาดหรือตัดสินใจผิดจังหวะ
แม้เขาจะมีความเร็วและพละกำลัง แต่ยังขาดความหลากหลายในการจบสกอร์ โดยเฉพาะในเกมที่คู่แข่งเน้นตั้งรับลึก เขามักเผชิญปัญหาในการหาพื้นที่และไม่มีทักษะพิเศษในการเลี้ยงหลบหรือพลิกบอลในพื้นที่แคบ

สภาพจิตใจและความมั่นใจที่ลดลง
ฮอยลุนด์ เริ่มต้นฤดูกาลด้วยฟอร์มที่ดีในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แต่เมื่อเข้าสู่พรีเมียร์ลีก เขาต้องเจอกับช่วงเวลาที่ยิงประตูไม่ได้ต่อเนื่องหลายเดือน สื่อและแฟนบอลเริ่มวิจารณ์หนัก ส่งผลให้ความมั่นใจของเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด
นักเตะดาวรุ่งที่ขาดประสบการณ์สูงมักจะเผชิญปัญหานี้ ฮอยลุนด์เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น การแบกรับความคาดหวังทั้งจากแฟนบอล สโมสร และสื่อ รวมถึงเสียงวิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย ยิ่งบั่นทอนสภาพจิตใจของเขา
การขาดคู่แข่งภายในทีม
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มีศูนย์หน้าธรรมชาติรายอื่นที่สามารถสร้างแรงกดดันให้ฮอยลุนด์ได้ เขาจึงไม่มีตัวเลือกที่คอยกระตุ้นหรือผลักดันให้ต้องเค้นฟอร์มออกมาอย่างเต็มที่
ในหลายเกม แม้เขาจะฟอร์มตก แต่ก็ยังได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพราะไม่มีตัวเลือกอื่นในตำแหน่งศูนย์หน้า นี่ทำให้เขาอาจขาดแรงกระตุ้นที่เพียงพอในการแข่งขันภายในทีม

ยังเร็วเกินไปจะตัดสิน ฮอยลุนด์
แม้ฤดูกาลแรกของราสมุส ฮอยลุนด์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไม่เป็นไปตามความคาดหวัง แต่การตัดสินว่าเขาคือล้มเหลวอาจเร็วเกินไป เขายังอายุน้อยและมีศักยภาพสูงมาก หากได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ทั้งจากโค้ช เพื่อนร่วมทีม และโครงสร้างสโมสร เขายังสามารถพัฒนาเป็นกองหน้าชั้นนำได้
สิ่งสำคัญคือ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องวางแผนระยะยาวให้ชัดเจนสำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นการเสริมทัพเพื่อเพิ่มตัวสนับสนุนในแนวรุก การปรับแท็คติกให้เหมาะกับศักยภาพของเขา หรือแม้แต่การสนับสนุนทางจิตใจและฟิตเนสแบบต่อเนื่อง
ในโลกฟุตบอล การย้ายทีมครั้งใหญ่โดยเฉพาะกับนักเตะอายุน้อย มักต้องใช้เวลาปรับตัวอย่างน้อย 1-2 ฤดูกาล ฮอยลุนด์ อาจยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง หากทุกฝ่ายมีความอดทนและสนับสนุนอย่างถูกวิธี