เรอัล มาดริด เจอข่าวร้ายเมื่อไม่มี โรดรีโก้ กับ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ ที่เจ็บตามสมทบ ดานี่ การ์บาฆาล และ ดาวิด อลาบา แต่ได้ บราฮิม ดิอาซ ฟิตพร้อมเป็นตัวสำรอง
ฝั่งของ บาร์เซโลน่า ยังขาด เอริค การ์เซีย, เฟร์ราน ตอร์เรส, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โรนัลด์ อเราโฮ่, มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น และ มาร์ค เบร์นาล
VAR ริบลูกยิง เอ็มบัปเป้ มาดริดยังไม่นำ มาดริด พลาดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย บอลเริ่มจากแดนหลังให้ บาซเกซ แทงทะลุช่องให้กับ เอ็มบัปเป้ หลุดไปชิพข้าม เปนญ่า เข้าไป VAR เข้ามาแทรกแซงก่อนยืนยันว่าล้ำหน้าดาวเตะชาวฝรั่งเศส
เลวานดอฟสกี้ ยิงเฉียบขาด! บาร์ซ่านำ 1-0 บาร์ซ่า มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ กาซาโด้ แทงจากกลางสนามให้ เลวานดอฟสกี้ หลุดกับดักล้ำหน้าเพราะ เมนดี้ ห้อยเป็นตัวสุดท้าย หัวหอกชาวโปแลนด์มีเวลาเหลือเฟือก่อนยิงผ่านมือ ลูนิน เข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นประตูที่ 13 ของเขาในลาลีกาซีซั่นนี้
เลวานดอฟสกี้ ขอเบิ้ล! บาร์ซ่านำห่าง 2-0 บาร์ซ่า มาได้ 2 ประตูในระยะเวลาห่างกันเพียง 2 นาทีเท่านั้น บัลเด้ ได้บอลจากกราบซ้ายก่อนบรรจงเปิดเข้าเขตโทษให้ เลวานดอฟสกี้ เทคตัวโหม่งแบบไม่มีใครกดดันเลย พุ่งหนีมือ ลูนิน อย่างสวยงาม
ยามาล ซัดแสกหน้า! บาร์ซ่าหนี 3-0 ครึ่งหลังกลายเป็นเกมของ บาร์ซ่า เลย บอลเริ่มจาก เปนญ่า วางยาวให้ เลวานดอฟสกี้ โหม่งเช็ดให้ ราฟินญ่า กระชากไปจ่ายให้ ยามาล ดึงจังหวะก่อนยิงด้วยขวาแสกหน้า ลูนิน เข้าไปเฉียบขาด พร้อมทำสถิติอายุน้อยสุดยิงได้ในเอล กลาซิโก้ ด้วยวัย 17 ปี 106 วัน
เหลือจะเชื่อ! ราฟินญ่า เหนือชั้น บาร์ซ่านำ 4-0 ความแตกต่างอยู่ที่การจบสกอร์จริง ๆ เลยสำหรับสองทีมนี้ มาดริด ดันเกมบุกเต็มที่เอาประตูตีไข่แตกเลยโดน บาร์ซ่า เล่นงานจุดนี้ อินญิโก้ วางบอลยาวให้ ราฟินญ่า เอาชนะ บาซเกซ ก่อนกระดกบอลข้ามหัว ลูนิน เข้าไป
